
รูปปั้นพระหฤทัย
ถ้าตั้งคำถามว่า อะไรคือเอกลักษณ์หรือสัญลักษณ์ของบ้านเณรพระหฤทัย ศรีราชา
บรรดาศิษย์เก่าและคนทั่วไปคงจะนึกถึงตึกเซมินารีอุม อาคารคอนกรีตหลังแรกของอำเภอศรีราชา ที่สร้างตั้งแต่ ค.ศ.1935 (ที่จริงสร้างปี 1936) ปีที่เป็นจุดกำเนิดของบ้านเณรที่ศรีราชา ปีที่อพยพขนข้าวของย้ายมาจากบ้านเณรพระหฤทัยที่บางช้าง

ในบรรดาข้าวของที่ขนย้ายมา ก็มีรูปปั้นพระหฤทัยรูปหนึ่งอยู่ด้วยในข้าวของเยอะแยะที่เราไม่เคยเห็นบัญชีว่ามีอะไรบ้าง รูปปั้นพระหฤทัยที่ว่านี้คือ รูปปั้นที่เป็นโลหะ ขณะนี้ตั้งอยู่ที่ตรงหัวตึกพระหฤทัย ถัดจากถ้ำแม่พระเข้ามานั่นเอง แล้วก็สร้างจำลองขึ้นอีกหนึ่งรูป ขนาดเท่า ๆ กัน คงทำด้วยไฟเบอร์กลาส ที่ใช้แห่วันฉลองวัด ขณะนี้น่าจะตั้งอยู่ในตึกพระหฤทัยตรงห้องโถงติดห้องอาหาร

รูปปั้นพระหฤทัยที่ว่านี้หล่อด้วยโลหะ (ไม่ทราบว่าเป็นเหล็กผสมอะไร) ยังไม่ได้ตรวจสอบหรือลองชั่งว่าหนักเท่าใด แต่คนเดียวยกไม่ไหวแน่ ๆ ถ้าจะคะเนก็คงราว 75 กิโลกรัม (เอาเป็นตัวเลขมงคล ครบรอบ 75 ปีบ้านเณรเลย) ความสูงวัดแล้วรวมฐานก็ 1.50 เมตรพอดี เป็นรูปปั้นประทับยืนเต็มตัว

ลักษณะพิเศษที่ต่างจากรูปพระหฤทัยทั่วไปที่พบเห็นทั้งรูปปั้นและรูปวาดคือ ยกพระหัตถ์ทั้งสองขึ้นยื่นไปข้างหน้าเล็กน้อย แบพระหัตถ์ลักษณะให้พร พระหัตถ์ขวาสูงเท่าพระเกศา พระหัตถ์ซ้ายกางกว่าเล็กน้อยและต่ำกว่าเล็กน้อย ระยะห่างระหว่างพระหัตถ์ประมาณ 60 ซม. ดูสมส่วนสวยงามและสง่า รูปที่จำลองขึ้นช่วงพระหัตถ์จะถ่างออกมากไปหน่อยและจะต่ำลง สู้แบบเดิมไม่ได้

ปัจจุบันรูปปั้นนี้ลงสีฉูดฉาดและมีลวดลายที่ตัวเสื้อคลุม น่าจะทำภายหลัง เท่าที่จำได้ เมื่อปี ค.ศ.1953 นั้นเป็นสีขาวทั้งองค์ ส่วนดั้งเดิมจริง ๆ จากบางช้างไม่ปรากฏว่าเป็นสีอะไร ฐานเดิมเป็นปูนสูง 1 เมตร กว้าง 60 ซม. ปัจจุบันทำใหม่บุหินแกรนิตแดง สวยสู้ของเดิมไม่ได้
เรื่องของตำแหน่งที่ตั้ง สันนิษฐานตามภาพที่พอจะใช้เป็นข้อมูลก็มีอยู่ 5 ตำแหน่ง
ตำแหน่งที่ 1 น่าจะเป็นตำแหน่งแรกจนถึงปี ค.ศ.1953 คือระหว่างเรือนไม้หลังแรกกับตึกเซมินารีอุม จะทำเป็นสวนหย่อมง่าย ๆ ด้านหลังมีต้นไม้ เช่น ฝรั่ง น้อยหน่า และเป็นบ่อน้ำคอนกรีตใต้ดิน เก็บน้ำฝนไว้ใช้ดื่มกิน ถ้าเดินจากตึกเซมินารีอุมมาห้องอาหารจะต้องผ่านรูปนี้ หันหน้าออกถนนตรงประตูทางเข้าพอดี ด้านหลังคือวัดหลังปัจจุบัน


ตำแหน่งที่ 2 ราว ค.ศ.1954 ท่านอธิการเคียมสูนให้สร้างอาคารนอน 2 ชั้น อาคารตากผ้า สร้างสวนข้างตึกเซมินารีอุม รูปพระหฤทัยจึงต้องย้ายชั่วคราวไปอยู่หัวตึกเซมินารีอุม หันหน้าออกถนน

ตำแหน่งที่ 3 ราว ค.ศ.1955 ได้ย้ายไปอยู่หน้าอาคารไม้หลังแรก

ในภาพ เป็นวันที่พระคุณเจ้าโชแรง ประมุขมิสซังกรุงเทพฯ มาเยี่ยมบ้านเณร ตอนนั้นพระคุณเจ้าเคียมสูนยังเป็นอธิการ และพระคุณเจ้าสงวน และคุณพ่อสวัสดิ์ กฤษเจริญ ยังมีชีวิตอยู่

ตำแหน่งที่ 4 ราว ค.ศ.1956 ย้ายไปอยู่หน้าตึกเซมินารีอุมด้านหน้า หันหน้าเข้าหาตึก

ได้มีการสร้างสวนบริเวณนั้น ด้านหลังเห็นบ้านพักพระสังฆราช
จากภาพตึกเซมินารีอุม (ภาพที่ 2) จะเห็นรูปพระหฤทัยอยู่หน้าตึกด้วย

ตำแหน่งปัจจุบัน ไม่ทราบแน่ชัดว่าย้ายมาตรงนี้ปีใด ก็คงหลังปี ค.ศ.1969 หลังจากอธิการบรรจง อารีพรรค รื้ออาคารไม้หลังแรก และสร้างตึกพระหฤทัย 3 ชั้นแทน

ภาพสุดท้ายเป็นภาพมุมกว้าง ซ้ายสุดเห็นอาคารไม้สองชั้นหลังแรก
ถัดมาเป็นเรือนไม้ชั้นเดียว (เรือนตากผ้า)เรียงต่อจากเรือนไม้หลังแรก
ถัดไปเห็นนิดเดียว เป็อาคารนอนสองชั้นขวาง
ขวาสุดเป็นตึกเซมินารีอุม เห็นรูปพระหฤทัยตั้งตรงหัวตึก
พระทัยคือที่พัก ให้ลูกรักได้อาศัย
ปกครองป้องกันภัย ด้วยพระทัยกรุณา